โหมดการคิดของ Gemini 2.0 Flash

โหมดการคิดของ Gemini 2.0 Flash เป็นโมเดลเวอร์ชันทดลองที่ได้รับการฝึกให้สร้าง "กระบวนการคิด" ที่โมเดลใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบกลับ ด้วยเหตุนี้ โหมดการคิดจึงมีความสามารถในการให้เหตุผลที่ดีขึ้นในการตอบกลับกว่าโมเดล Gemini 2.0 Flash พื้นฐาน

ใช้โหมดกำลังคิด

โหมดการคิดมีให้บริการเป็นโมเดลเวอร์ชันทดลองใน Google AI Studio และสำหรับการใช้งานโดยตรงใน Gemini API ดังนี้

Gemini API

ระบุรหัสโมเดลเมื่อเรียกใช้ Gemini API เช่น

response = client.models.generate_content(
    model='gemini-2.0-flash-thinking-exp', contents='Explain the Pythagorean theorem to a 10-year-old.'
)

คุณใช้ gemini-2.0-flash-thinking-exp หรือ gemini-2.0-flash-thinking-exp-1219 เป็นรหัสโมเดลก็ได้

Google AI Studio

เลือกโมเดล Gemini 2.0 Flash Thinking Experimental ในเมนูแบบเลื่อนลงโมเดลในแผงการตั้งค่า

ความคิดเห็น

วิธีที่ระบบแสดงผลความคิดของโมเดลจะขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ Gemini API โดยตรงหรือส่งคำขอผ่าน Google AI Studio

Gemini API

ระบบจะแสดงผลกระบวนการคิดของโมเดลเป็นองค์ประกอบแรกของรายการ content.parts ที่สร้างเมื่อโมเดลสร้างคำตอบ ตัวอย่างเช่น โค้ดต่อไปนี้จะแสดงเฉพาะกระบวนการคิดของโมเดล

response = client.models.generate_content(
    model='gemini-2.0-flash-thinking-exp', contents='Solve 3*x^3-5*x=1'
)

Markdown(response.candidates[0].content.parts[0].text)

ดูตัวอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้โหมดการคิดโดยใช้ Gemini API ได้ในสมุดบันทึก Colab

Google AI Studio

ระบบจะแสดงกระบวนการคิดของโมเดลเป็นหัวข้อใหม่ในแผงความคิดในหน้าต่างคำตอบ

ตัวอย่างแผง "ความคิด" ใน Google AI Studio

โดยค่าเริ่มต้น แผงความคิดเห็นจะยุบอยู่ คุณขยายแผงได้โดยคลิกส่วนหัวความคิดเห็น

เนื้อหาของแผงแนวคิดจะแก้ไขไม่ได้ใน Google AI Studio ต่างจากคำตอบที่แสดง

ข้อจำกัด

โหมดการคิดเป็นรูปแบบการทดลองและมีข้อจำกัดต่อไปนี้

  • ขีดจํากัดการป้อนโทเค็น 32,000 รายการ
  • อินพุตข้อความและรูปภาพเท่านั้น
  • ขีดจํากัดเอาต์พุตโทเค็น 8K
  • เอาต์พุตแบบข้อความเท่านั้น
  • ไม่มีการใช้เครื่องมือในตัว เช่น การค้นหาหรือการเรียกใช้โค้ด

ขั้นตอนถัดไปคือ

ลองใช้โหมดการคิดด้วยตัวคุณเองด้วย Colab notebook หรือเปิด Google AI Studio แล้วลองป้อนข้อมูลให้โมเดล